ขับรถทางไกลต้องตรวจสอบและเตรียมตัวอย่างไร
ขับรถทางไกลต้องเตรียมตัวอย่างไร
หากคุยกันถึงเรื่องการขับรถทางไกล
ๆ แล้วมีคนสงสับว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้างเพื่อให้การเดินทางปลอดภัยราบรื่น
หลัก ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น เตรียมรถ(พาหนะ) เตรียมคม (ขับรถ)ถนนหนทางสมัยนี้ค่อนข้างกว้างขวางสะดวกสบาย
ใครที่มีรถยนต์เป็นของตนเองก็คงไม่พ้นอยากจะหาโอกาสว่าง ๆ
หรือวันหยุดตามเทศกาลต่าง ๆ ที่ติด ๆ กันหลาย ๆ
วันขับรถเดินทางไปเที่ยวตามต่างจังหวัดทั้งไกลและใกล้กันบ้างแหละน่า
บางครอบครัวก็ถือโอกาสไปเยี่ยมญาติกันด้วยในคราวเดียว
แต่ก่อนจะเดินทางเราควรจะสำรวจตรวจตรากันก่อนดีไหมครับว่าทำอย่างไรเราจึงจะเดินทางขับรถกันไกล
ๆ โดยไม่มีอุปสรรคขัดข้องอันใดมาทำให้เสียฤกษ์เสียอารมณ์
(หรือบางครั้งอาจถึงเสียชีวิตและเลือดเนื้อ)
ก็อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าโดยหลักใหญ่ ๆ ก็หนีไม่พ้นการเตรียมพร้อมทั้งคนและรถนั่นเอง
การเตรียมพร้อมของคน
(ขับรถ) ที่สำคัญ ๆ ก็คือ
เตรียมพร้อมเรียนรู้เส้นทางที่กำลังจะเดินทางไป
การเรียนรู้เส้นทางจะช่วยให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น
อาจไม่ต้องถึงกับรู้ทะลุปรุโปร่ง แต่อย่างน้อยควรจะรู้ว่าหากเดินทางไปทางเหนือควนจะออกนอกเมืองทางด้านไหน
ขับไปบนถนนสายอะไร และจะต้องผ่านจังหวัดอะไรกันบ้าง
การเรียนรู้เส้นทางนี้ก็ง่ายนิดเดียว
หาแผนที่ของกรมทางหลวงฉบับปีปัจจุบันมากางดูสักหน่อย
หรืออาจจะสอบถามจากเพื่อนฝูงที่เคยเดินทางไปในเส้นทางนั้น ๆ มาแล้ว
(ยิ่งถ้าเพิ่งจะเดินทางสด ๆ ร้อน ๆ เลยยิ่งดีใหญ่
เพราะจะทำให้เราทราบถึงสภาพเส้นทางและถนนในปัจจุบันด้วย) เช่น
ควรใช้เส้นทางใดจะสะดวกหรือปลอดภัยกว่า มีทางชำรุดตรงไหนบ้างหรือไม่
เหล่านี้เป็นรายละเอียดที่สำคัญสำหรับการเดินทางขับรถไปในที่ไกล ๆ ทั้งนั้นแหละ
การเตรียมพร้อมทางสภาพร่างกายของผู้ทำหน้าที่ขับรถก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
ไม่ว่าเส้นทางจะไกลหรือใกล้เพียงใดการขับรถเป็นเวลานาน ๆ
ร่างกายจะต้องได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ไม่ใช่ว่าจะเดินทางวันจันทร์
คืนวันอาทิตย์ยังเมาแอ๋ออยู่แถว ๆ RCA เลย
ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องสงสัยไว้ก่อนแหละว่าหนังสือพิมพ์วันจันทร์คงจะมีรูปนายคนนั้นอยู่เป็นที่แน่นอนแล้ว
(ตรงนี้อยากให้ทุก ๆ
ท่านพึงสังวรณ์ว่าหากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์พร้อมแล้วมาขับรถยนต์
(ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้)
ก็เท่ากับว่าเตรียมใจที่จะตายไปกว่าครึ่งแล้วและอาจเตรียมเผื่อคนรอบ ๆ
ข้างอีกสักที่สองที่หรือเป็นสิบที่ก็ไม่แปลก) นอกจากนี้
แม่จะไม่เมาไม่ง่วงก็ต้องมีร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยเจ็บเป็นไข้หวัด
หรือเป็นโรคปัจจุบันทันด่วน เช่น โรคหัวใจ หรือโรคลมต่าง ๆ ไม่มีอาการปวดศีรษะ
สรุปว่าร่างกายต้องแข็งแรง สายตาต้องแจ่มใส (สั้นไม่เป็นไร)
ทั้งนี้การขับรถทางไกลจะทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและเมื่อยล้ามากบ้างน้อยบ้างตามแต่สถานการณ์
ที่ป่วยอยู่หรือใกล้จะป่วยอาจจะมา “ออกอาการ” เอายามนั้นก็ได้
อีกอย่างที่ต้องห้ามขาดคือ
สุรายาดองของมึนเมาและสิ่งเสพติดทั้งหลาย อย่าได้ริเป็นอันขาดไม่ว่ากรณีได ๆ
ถ้าท่านจะต้องขับรถ ไม่ว่าเจ้าสุราแก้วนั้นใครจะเป็นคนซื้อมาให้กินก็ขอให้ปฎิเสธไว้ก่อน
เพราะผู้มีพระคุณท่านนั้นกำลังหยิบยื่นความฉิบหายมาให้ทั้งเราและผู้โดยสานในรถรวมทั้งคนในรถคันอื่น
ๆ คิดดูดี ๆ คนเมาน่ะแม้จะเกินยังเดินเองไม่ไหว
แล้วให้ไปขับรถที่มันมีความเร็วสูงกว่าเดิมตั้งเยอะ อย่างนี้ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต
ถ้ายังอยากจะไปเที่ยวกันให้สนุกและกลับมาใช้ชีวิตต่ออย่างปลอดภัยล่ะ ก้อ
เชื่อข้าน้อยเถอะ
นอกจากการเตรียมตัวที่ดีแล้ว
การขับรถที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง (จะเป็นจะตายก็อยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน)
อย่าใช้ความเร็วสูงมากรวมทั้งไม่ควรขับอยู่เลนขวาตลอดเพราะอาจจะมีรุที่วิ่งเร็วกว่าเราตามมา
ที่สำคัญอาจโดนจับความเร็วหรือข้อหาวิ่นในเลนขวาเพราะเลนขวาของทางหลวงเขามีไว้สำหรับแซง
อย่างไปถึงเต็ว ๆ ก็ออกเดินทางเร็ว ๆ เผื่อเวลาไว้สำหรับเจอรถติดหรืออุปสรรคต่าง ๆ
รวมทั้งเวลาที่จะหยุดพักกินข้าวกินน้ำ เติมน้ำมันด้วย หากไม่เผือเวลาไว้ก็อาจจะต้องใช้ความเร็วสูงซึ่งอาจจะเกิดอุบัติเหตุแล้วยังเป็นการสะสมความเครียดให้กับทุกชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ด้วย
นอกจากนี้ไม่ควรขับจี้ติดท้ายรถคันหน้ามากเกินไป
ควรทิ้งระยะไว้บ้างเพื่อให้ทัศนวิสัยกว้างขั้น
และสามารถตัดสินใจได้ทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
อีกอย่างที่พึงคิดไว้บ่อย ๆ
คือแม้จะเป็นเลนของเราแต่ถ้ามีรถเร็วกว่าต้องการแซงควรเปิดทางให้
ยิ่งถ้าเป็นรถในเลนสวนทางที่ห้อตะบึงมา หลบได้ขอให้หลบหลีกได้ก็ขอให้หลีก
อย่ามัวคิดว่าเลนข้าใครอย่าแตะ อาจจะเหลือเป็นห่อ ๆ กลับบ้านก็ได้
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากที่สุดอีกอย่างคือปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัด
มีผู้ขับรถเป็นจำนวนมากที่ปฏิบัติตามกฏจราจร (จล)
อย่างเคร่งครัดเสียเหลือเกินเลยทำให้เกิดความวุ่นวายกับผู้คนอื่น ๆ
ที่เขาร่วมใช้รถใช้ถนนกับท่านเหล่านั้นเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น
คนขับรถช้ากว่าคันอื่น (ไม่กลัวเต่ากัดล้อ)
แต่ขอโทษทีเถอะ วิ่งอยู่เลนขวาสุดของถนนเลยแหละ
บางคนดูป้ายและสัญญาณกันไม่เป็น
อ่านไม่ออกแปลไม่ได้ว่าเขาตั้งใจจะบอกว่าอะไรหรือห้ามอะไรหรือจะแนะนำอะไร
(สันนิษฐานได้ว่าใบขับขี่นี้ไปซื้อมา)
ตรงที่เขาห้างเลี้ยวหรือกลับรถเสียออกหน้าออกตา บางท่านตาบอดสีเห็นไฟแดงเป็นไฟเขียวเห็นไฟเหลืองก็เป็นไฟเขียว
(อีกเหมือนกัน)
แบบนี้ถ้าขับรถในเมืองอาจแค่บาดเจ็บหรือรถยับเยินนิดหน่อยแต่ถ้าเป็นทางต่างจังหวัด
ขอโทษทีอาจจะดูไม่ออกว่าเป็นซากรถอะไร
นอกจากนี้ถ้าสังเกตป้ายข้างทางจะมีบอกไว้เมื่อวิ่งผ่านเขตชุมชนหรือเขตโรงรียน
ขอให้ลดความเร็วลงด้วย
แต่บางท่านคงเป็นลูกครึ่งอ่านภาษาไทยไม่ค่อยออกก็เลยยิ่งกดคันเร่งเพิ่มความเร็วเข้าไปอีก
(ให้มันรู้กันไปเลย) และยังมีอีกหลาย ๆ
ตัวอย่างซึ่งถ้าจะให้เขียนทั้งหมดคงต้องใช้เวลาเป็นปีกับกระดาษอีกเยอะแยะ
จึงอยากจะสรุปสำหรับประเด็นนี้ว่า จงเคารพกฏจราจร (ไม่ใช่เคารพกฏจลาจล)
ก็จะก่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางไปในทุกที่และทุกเวลา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น